การสนทนา คือ
การสนทนา หมายถึง การพูดระหว่างบุคคลตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป ผลัดกันพูดและผลัดกันฟัง
การสนทนามีหลายลักษณะ อาจจะเป็นลักษณะที่ไม่เป็นแบบแผนคุยตามสบายไม่จำกัดเรื่องที่สนทนา
เช่น การสนทนาในครอบครัว การสนทนากันในเพื่อนผู้เรียนที่รู้จักสนิทสนมกัน เป็นต้น แต่ในการ
สนทนาบางครั้งเป็นการสนทนาที่มีแบบแผน ซึ่งต้องมีการตระเตรียมล่วงหน้า ส่วนใหญ่จะเป็นการ
สนทนาเชิงวิชาการ แต่ในที่นี้จะพูดถึงการสนทนาที่ไม่เป็นแบบแผน คือการสนทนากับบุคคลที่รู้จักคุ้นเคย และบุคคลแรกรู้จัก การสื่อสารลักษณะนี้มีความสำคัญและเราได้ใช้เป็นประจำยิ่งในครอบครัวในที่ทำงาน ในสถานศึกษาหรือในกลุ่มของผู้เรียน ถ้ามีการสนทนากันด้วยดี ก็จะนำความสัมพันธ์
ฉันพี่น้อง ฉันมิตรมาให้ กระทำสิ่งใดก็ราบรื่น เกิดความสามัคคีและนำความสุขมาให้แต่ในทางตรงข้ามถ้าการสนทนาไม่เป็นไปด้วยดี ก็ย่อมก่อให้เกิดการแตกร้าว ขาดสามัคคี มีแต่ความสับสนวุ่นวายการสนทนาระหว่างบุคคลที่รู้จักคุ้นเคยมีสิ่งสำคัญที่ต้องนึกถึงอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องที่สนทนาและคุณสมบัติของผู้ร่วมสนทนา
ก. เรื่องที่สนทนา
เรื่องที่นำมาสนทนา จะทำให้การสนทนาดำเนินไปด้วยดีมีผลดีต่อทั้งสองฝ่ายนั้น ควรมีลักษณะดังนี้
1. ควรเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายมีความรู้และความสนใจร่วมกันหรือตรงกัน
2. ควรเป็นข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ๆ เช่นเป็นข่าวในหนังสือรายวัน
ภาวะเศรษฐกิจ ปัญหาการครองชีพ เหตุการณ์ทางการเมืองในขณะนั้น เป็นต้น
3. ควรเป็นเรื่องที่เหมาะกับโอกาส กาลเทศะ และเหตุการณ์ เช่น ถ้าเป็นการสนทนางานมงคล
ก็ควรพูดแต่สิ่งที่เป็นมงคลเป็นสิ่งดีงาม ไม่พูดในสิ่งที่ไม่เป็นมงคล หรือเรื่องร้ายในขณะเดียวกัน
ถ้าเป็นงานที่เศร้าโศกกลับไปพูดเรื่องสนุกสนานก็ไม่สมควร
4. ควรเป็นเรื่องที่ไม่สร้างความวิตกกังวล ความเครียดให้กับคู่สนทนา ควรเป็นเรื่องที่ทำให้
เกิดความพอใจความสบายใจหรือความสนุกสนาน
เรื่องที่ควรงดเว้นที่จะนำมาสนทนาได้แก่
1. เรื่องส่วนตัวของตนเองและเรื่องที่คู่สนทนาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
2. เรื่องที่เป็นการนินทาผู้อื่น เรื่องที่ไม่เป็นสาระแก่นสาร
3. คุยโวโอ้อวดความสามารถของตนเอง
4. เรื่องความทุกข์ร้อนของตน ความโชคร้ายเพื่อขอความเห็นใจ ยกเว้นการสนทนากับ
ผู้ใกล้ชิดสนิทสนมกันจริงๆ
ข. คุณสมบัติของผู้ร่วมสนทนา
1. มีความรอบรู้ในเรื่องต่างๆ พอสมควร มีการติดตามเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง
และโลกอยู่เสมอ
2. ใช้ถ้อยคำสุภาพ ระมัดระวังในการใช้ภาษาให้เหมาะสมเป็นกันเอง แสดงการเอาใจใส่
และกิริยาท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส มีการขอโทษ ขออภัยเมื่อพูดผิดพลาด มีการขานรับด้วยคำ ครับ ค่ะใช่ครับ ใช่ค่ะ จริงครับ ถูกแล้วค่ะ
3. เป็นผู้พูดและผู้ฟังที่ดี ให้โอกาสคู่สนทนาได้พูดขณะที่เขาพูดไม่จบก็ต้องรอไว้ก่อน
แม้จะเบื่อหน่ายก็ต้องอดทนเก็บความรู้สึกไว้ ไม่แสดงกิริยาอาการเบื่อหน่ายให้เห็น ให้โอกาสคู่สนทนา
ได้พูดและแสดงความคิดเห็นให้มากที่สุด
4. รู้จักสังเกตความรู้สึกของคู่สนทนา ซึ่งจะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและน้ำเสียง คำพูด
ถ้าหากสังเกตเห็นว่าคู่สนทนาไม่สนใจฟัง ไม่กระตือรือร้น ดูสีหน้าแสดงความเบื่อหน่ายก็ให้เปลี่ยน
บรรยากาศด้วยการเปลี่ยนเรื่องสนทนา หรือพยายามสังเกตให้ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้คู่สนทนาไม่สนใจ
เกิดการเบื่อหน่ายแล้วจึงแก้ไขตามสาเหตุนั้น เช่น เห็นว่าคู่สนทนามีกิจธุระที่จะทำ เราก็ปรับเวลาของ
การสนทนาให้สั้นเข้าหรือให้พอเหมาะพอควร
5. พูดให้กระชับตรงประเด็น ให้รู้ว่าสิ่งใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด สิ่งใดคู่สนทนาพอใจ
สิ่งใดคู่สนทนาไม่พอใจ ไม่พูดข่มขู่ ไม่ผูกขาดการพูด หากคู่สนทนาผิดพลาดไม่ควรตำหนิโดยตรง
ควรมีวิธีการและใช้คำพูดที่แยบยลเพื่อให้เขารู้สึกได้เอง
แชท คือ การเขียนบทสนทนาระหว่างคนสองคนหรือมากกว่านั้น โดยใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (เครือข่ายท้องถิ่น บริการออนไลน์, อินเตอร์เน็ต ฯลฯ) คุณสามารถสนทนากับผู้สนทนา และได้รับคำตอบในทันที เมื่อผู้สนทนาเขียน และส่งข้อความ คู่สนทนาจะได้รับข้อความในทันที ผู้ใช้จำนวนมากสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว คุณสามารถสนทนากันได้โดยออนไลน์ในเวลาเดียวกัน และสนทนาในระบบเดียวกัน การใช้บริการอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ ใช้เพื่อการสนทนา ทุกระบบของการสนทนาทำงานเหมือนกัน ระบบลูกกับระบบแม่จะเชื่อมต่อกันบนเครือข่าย การสนทนาหรือการแชทนั้นมีสองทางเลือก คือ ห้องสนทนา เป็นที่ที่คุณสามารถสนทนากันในหัวข้อที่เฉพาะเจาะจง และห้องสนทนาส่วนตัว เป็นที่ที่คุณสามารถสนทนาได้โดยตรงกับคู่สนทนาของคุณ ที่คุณต้องการจะสนทนาด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น